
คลิ๊กเพื่อขอใบเสนอราคา
ตรวจสอบรับรองการจัดการพลังงานกับ EFC
ผู้ตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงานจาก EFC เป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้ทางด้านอนุรักษ์พลังงานและการจัดการพลังงานมาอย่างยาวนาน มีประสบการณ์ในการจัดทำระบบการจัดการพลังงานและการอนุรักษ์พลังงานในโรงงาน/อาคารทั้งใหญ่และเล็ก กว่า 100 แห่ง พัฒนาบุคลากรทางด้านพลังงานมาแล้วกว่า 2,500 คน พร้อมทั้งได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ชำนาญการตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงาน กับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จึงมั่นใจได้ว่าสถานประกอบการของท่านจะได้รับความรู้ ข้อคิดและประสบการณ์ รวมถึงแนวคิดในการประหยัดและพัฒนาระบบการจัดการพลังงานที่เหมาะสม จากการดำเนินการของเรา

ที่มาและความสำคัญ
พระราชบัญญัติการส่งเสริมอนุรักษ์การพลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ๒๕๕๐)
นับตั้งแต่พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๓๕ เป็นต้นมา กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน จึงได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ๒๕๕๐) ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๑
ตามประกาศกระทรวงเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการจัดการพลังงานในโรงงานควบคุมและอาคารควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๒ หมวดที่ ๕ ข้อ ๒๑ ได้ระบุไว้ว่าให้เจ้าของโรงงานควบคุมและอาคารควบคุมต้องจัดทำระบบการจัดการพลังงานและรายงานการจัดการพลังงานขึ้น หลังจากนั้นต้องมีการตรวจสอบและรับรองระบบการจัดการพลังงานดังกล่าว จากทีมผู้ตรวจสอบจากภายนอกที่มีใบอนุญาตตรวจสอบตามกฎหมาย โดยต้องส่งรายงานการจัดการพลังงานและรายงานการตรวจสอบฯ ให้กับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
โดยกำหนดไว้ว่า “โรงงานและอาคารที่มีลักษณะ ต่อไปนี้เป็นอาคารและโรงงานควบคุม” คือ
- ติดตั้งเครื่องวัดไฟฟ้าตั้งแต่ 1000 กิโลวัตต์ขึ้นไป
- ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีขนาดตั้งแต่ 1175 กิโลโวลต์แอมแปร์ขึ้นไป
- มีการใช้ไฟฟ้า ไอน้ำและพลังงานสิ้นเปลืองรวมกันคิดเป็นพลังงานความร้อนตั้งแต่ 20 ล้านเมกะจูลขึ้นไป
วัตถุประสงค์
- เป็นการดำเนินการตาม พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๐)
- พัฒนาระบบการจัดการพลังงานจากการตรวจสอบจากภายนอก
- ทุกภาคส่วนขององค์ได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนระบบการจัดการพลังงานให้ดียิ่งขึ้นไป
- ลดต้นทุนพลังงานเพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางด้านธุรกิจ
- เกิดการพัฒนาระบบการจัดการพลังงานอย่างต่อเนื่อง
รายละเอียดและขอบเขตงาน
ตรวจสอบระบบการจัดการพลังงานทั้ง 8 ขั้นตอนตามความสอดคล้องกับ พรบ ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
- การแต่งตั้งคณะทำงานด้านการจัดการพลังงาน
- การประเมินสถานภาพการจัดการพลังงานเบื้องต้น
- การกำหนดนโยบายอนุรักษ์พลังงาน
- การประเมินศักยภาพการอนุรักษ์พลังงาน
- การกำหนดเป้าหมายและแผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนการฝึกอบรมและกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
- การดำเนินการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน และการตรวจสอบและวิเคราะห์การปฏิบัติตามเป้าหมายและแผนอนุรักษ์พลังงาน
- การตรวจติดตามและประเมินการจัดการพลังงาน
- การทบทวน วิเคราะห์และแก้ไขข้อบกพร่องของการจัดการพลังงาน
เราแตกต่างจากผู้ตรวจรายอื่นอย่างไร
การทำระบบการจัดการพลังงานนั้น มีขั้นตอนการทำทั้งหมด 8 ขั้นตอน โดยดำเนินการตามกฎกระทรวงและประกาศกระทรวงที่ออกมาในปี 2552 ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมากในระบบ(ตามวงกลมสีฟ้าทั้งหมด) แต่การตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงานจากผู้ตรวจสอบฯภายนอกนั้น ตามกฎหมายกำหนดให้ผู้ตรวจสอบฯ มาทำการตรวจความสอดคล้องของระบบตามประกาศกระทรวงฯ หมวด 5 ข้อ 24 (3) (ก), (ข) เท่านั้นซึ่งถือว่าเป็นการตรวจสอบฯในวงกลมสีแดงบางส่วนของระบบเท่านั้น ไม่ได้เป็นการตรวจสอบทั้งระบบ ตามกฎหมายระบุการตรวจสอบฯที่เป็นตะแกรงร่อนพื้นฐานเพียงเท่านั้น
ผู้ตรวจสอบฯบางรายที่ไม่เชี่ยวชาญระบบการจัดการพลังงานอาจจะไม่ได้อยู่ในสายงานพลังงานโดยตรง ก็จะตรวจสอบเพียงในแค่วงกลมสีแดงเท่านั้น ไม่ได้ดูทั้งระบบ
สำหรับทีมงานของ EFC เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์ทางด้านการอนุรักษ์พลังงานโดยตรงมาอย่างยาวนาน จะดำเนินการตรวจประเมินนอกเหนือจากวงกลมสีแดง และจะแนะนำการพัฒนาระบบ มาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และสิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์อย่างเหมาะสมให้กับสถานประกอบการซึ่งสามารถทำได้และเห็นผลจริง เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานอย่างยั่งยืนในองค์กรสืบต่อไป
ประโยชน์ที่จะได้รับ
- บริษัทจะได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๐)
- พัฒนาระบบการจัดการพลังงานผ่านกระบวนการ ตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงานจากภายนอก
- ผลการตรวจรับรองการจัดการพลังงานที่ชัดเจน แม่นยำ โดยใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- การ กระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้พนักงานในองค์กรได้มีส่วนร่วมในระบบการจัดการพลังงาน
-
ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจากมาตรการอนุรักษ์พลังงานที่เหมาะสม และ เพิ่มโอกาสทางการวางนโยบายทางการตลาดให้มีความยืดหยุ่นจากต้นทุนการประกอบการที่ลดลง เพื่อเพิ่มความได้เปรียบเหนือคู่แข่งทางการค้าได้
-
ข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำ ที่เป็นประโยชน์ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการพลังงาน ทั้งในเชิงเทคนิคและระบบการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กร จากผู้ตรวจรับรองมีประสบการณ์การทำงานด้านการจัดการพลังงานมาอย่างยาวนาน

รูปแบบการตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงาน
ตรวจรับรองตามมาตรฐานระบบการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน



การตรวจสอบรับรองการจัดการพลังงานมีเกณฑ์ในการตัดสินอย่างไร?
1.) ความสอดคล้องกับข้อกำหนดของวิธีการจัดการพลังงานการตัดสินใจว่าประเด็นใดสอดคล้องกับข้อกำหนดวิธีการจัดการพลังงานก็ต่อเมื่อผลการปฏิบัติต้องสอดคล้องกับข้อกำหนด
- โดยมีหลักฐานที่เกี่ยวกับการสัมภาษณ์บุคคลที่รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้อง
- ดูเอกสารบันทึก
- ดูจากสถานที่ปฏิบัติจริงแล้วเหมาะสมถูกต้อง
2.) ประเภทของความไม่สอดคล้องกับวิธีการจัดการพลังงาน
- ร้ายแรง (Major) คือ ไม่มีเอกสารในการจัดการพลังงาน หรือ บุคคลส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องการจัดการพลังงาน หรือ ไม่มีหลักฐานการปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ ตามที่ข้อกำหนดวิธีการจัดการพลังงานระบุไว้โดยสิ้นเชิง
- ไม่ร้ายแรง (Minor) คือ ความไม่สอดคล้องของเอกสารกับการปฏิบัติจริง ไม่สอดคล้องหรือมีความคลาดเคลื่อนในเชิงปฏิบัติบางส่วน
3.) ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง ทีมงานผู้ตรวจสอบพลังงานเสนอแนะข้อแนะนำในการปรับปรุงการดำเนินการให้แก่เจ้าของโรงงานในกรณี
- ที่โรงงานควบคุมนั้นปฏิบัติหรือดำเนินวิธีการจัดการพลังงานยังไม่สอดคล้องกับข้อกำหนด ในกรณีที่ดำเนินวิธีการจัดการพลังงานแล้ว โดยไม่พบข้อบกพร่อง แต่มีโอกาสที่จะปรับปรุงการดำเนินการให้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เดิม
4.) การตัดสินผลการตรวจสอบการจัดการพลังงาน
- กรณีที่ผลการตรวจสอบสอดคล้องกับวิธีการจัดการพลังงานทั้งหมดทุก ๆ ข้อกำหนดที่ตรวจให้ตัดสินผล “ผ่านการตรวจสอบ”
- กรณีที่พบความไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดเป็นประเภทไม่ร้ายแรง (Minor) ให้ระบุผลการตรวจสอบ “ผ่านการตรวจสอบแต่ต้องแก้ไข” ซึ่งโรงงานควบคุม/อาคารควบคุมต้องแก้ไข โดยส่งหลักฐานเป็นเอกสาร หรือรูปถ่ายเพิ่มเติมก็ได้
- กรณีที่พบความไม่สอดคล้องเป็นประเภทร้ายแรง (Major) ในข้อกำหนดใดข้อกำหนดหนึ่งเท่านั้นให้ตัดสินผลการตรวจสอบ “ไม่ผ่านการตรวจสอบ”
เตรียมความพร้อมอย่างไรก่อนการตรวจสอบรับรองการจัดการพลังงาน
ในการตรวจสอบแต่ละขั้นตอนนั้น ทางบริษัทฯที่ได้รับการตรวจสอบ ควรน้นที่จะทำให้ไม่เกิดความไม่สอดคล้องที่ร้ายแรงขึ้น(Major) หรือเรียกง่ายๆว่าจะทำอย่างไรก็ได้เพื่อไม่ให้ผลการตรวจสอบแต่ขั้นตอนออกมาเป็น Major นั่นเอง
แค่นี้บริษัทของท่านก็สามารถผ่านการรับรองแล้ว
คลิ๊กเพื่อขอใบเสนอราคา