
ฝึกอบรมอนุรักษ์พลังงาน และการจัดการพลังงาน
EFC ให้บริการฝึกอบรมพลังงาน เน้นสนุกมีสาระ ทำ Workshop เพิ่มความเข้าใจ ประยุกต์ใช้ได้จริง
การฝึกอบรมมีการให้บริการ 2 รูปแบบด้วยกัน
- การจัดฝึกอบรมแบบ Online Live-streaminig ผ่านโปรแกรม Microsoft Team หรือ Zoom ให้กับบุคลากรภายในองค์กรของท่าน
- การจัดฝึกอบรมในสถานประกอบการของท่าน In-house training
ทุกหลักสูตรออกแบบเชิงบูรณาการให้พนักงานทุกท่านมีส่วนร่วม เน้นสนุกมีสาระ มี Workshop มีของรางวัลร่วมสนุก และรับชมวิดีโอการบรรยายย้อนหลังได้สำหรับคอร์สออนไลน์


—> ติดต่องานอบรม โทร. 081-308-2355, 082-452-8909 <—

หลักสูตรเหมาะสำหรับ: พนักงานทั่วไป หัวหน้างาน
EFC-A-01 : หลักสูตรการสร้างจิตสำนึกสนุกรักษ์พลังงาน (Fun Energy Awareness) – 3 ชม
หลักสูตรเหมาะสำหรับ: ผู้จัดการหัวหน้างาน คณะทำงานฯ ผู้ตรวจประเมินฯ ผู้รับผิดชอบพลังงาน
EFC-B-01 : การจัดทำรายงานการจัดการพลังงานตามกฎหมาย (ฟอร์มใหม่) – 3 ชม
หลักสูตรเหมาะสำหรับ : วิศวกร ช่างเทคนิค ผู้รับผิดชอบพลังงาน
EFC-C-01 : เทคนิคประหยัดค่าไฟฟ้าในองค์กร + เทคนิคอนุรักษ์พลังงานในหม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้า – 3 ชม
EFC-C-04 : การปรับปรุงประสิทธิภาพและเทคนิคอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ำ (Boiler) และระบบไอน้ำ – 3 ชม
หลักสูตรเหมาะสำหรับ: ผู้บริหารระดับกลาง คณะทำงานฯ ผู้รับผิดชอบพลังงาน
EFC-A-01 : การสร้างจิตสำนึกสนุกรักษ์พลังงาน (Fun Energy Awareness) – 3 ชั่วโมง
หลักการอนุรักษ์พลังงานที่ง่ายที่สุดเรียกว่า House Keeping คือการที่พนักงานทุกคนในสถานประกอบการของท่านร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยกันลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นและลดการสูญเสียการใช้พลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ การอบรมจะเน้นที่ความสนุกและเสียงหัวเราะจากพนักงาน นั่นคือพื้นฐานในการอนุรักษ์พลังงานอย่างยั่งยืน


ฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่ง่ายและแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่หลายๆสถานประกอบการกลับพบกับอุปสรรคในการอนุรักษ์พลังงานในรูปแบบนี้ ปัจจัยสำคัญมาจาก พนักงานมีความรู้ความเข้าใจทางด้านการอนุรักษ์พลังงานไม่เพียงพอ การให้ความสำคัญที่ค่อนข้างน้อยนี้เอง จึงนำไปสู่การใช้พลังงานบางส่วนที่เกินความจำเป็นและต้นทุนพลังงานสูงขึ้น ดังนั้นควรมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและพลังงานต่างๆ เพื่อให้มีความเข้าใจถึงหลักการการพลังงานให้คุ้มค่าอย่างแท้จริง
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้พนักงานได้มีความรู้และเข้าใจถึงการใช้พลังงานในองค์กรอย่างรู้คุณค่า สอดแทรกความสนุกแบบมีสาระ สร้างจิตสำนึกอนุรักษ์พลังงานและสามารถมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานจากพนักงานทุกระดับ ซึ่งส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กรอย่างยั่งยืน
ประโยชน์ที่ได้รับ
- เข้าใจความหมายและความเป็นมาในการอนุรักษ์พลังงานภายในองค์กร รวมทั้งผลกระทบและความสูญเสียในการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง
- มีความรู้ทางด้านการอนุรักษ์พลังงานเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับลดการใช้พลังงานในองค์กร
- มีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานและทริคการประหยัดพลังงานเบื้องต้น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่และหน่วยงานของตน
- มีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการใช้พลังงานในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- มีจิตสำนึกสนุกรักษ์พลังงาน สร้างพื้นฐานการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนภายในองค์กร
เนื้อหาหลักสูตร
- สร้างจิตสำนึกอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม
- ความสำคัญของพลังงาน
- สถานการณ์พลังงานใน อดีต ปัจจุบันและอนาคต
- เทคนิคอย่างง่ายสำหรับการประหยัดพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายขององค์กร
- ตัวอย่างและกรณีศึกษา



EFC-A-02 : การสร้างจิตสำนึกสนุกรักษ์พลังงาน + กิจกรรมกลุ่มย่อย (Small Group Activity: SGA) เพื่อหามาตรการอนุรักษ์พลังงานเบื้องต้นในองค์กร – 6 ชั่วโมง
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
เมื่อสถานประกอบการของท่านสร้างจิตสำนึกทางด้านการอนุรักษ์พลังงานอย่างทั่วถึงแล้ว พนักงานทุกรับดับมีความรู้ทางด้านการอนุรักษ์พลังงานขั้นพื้นฐาน จนสามารถเริ่มมีแนวคิดการประหยัดพลังงานได้ในระดับหนึ่ง

การคิดหามาตรการอนุรักษ์พลังงานใหม่ๆ อาจจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์จากบุคลากรของท่านเป็นอย่างมาก EFC จึงได้มีแนวคิดที่จะดำเนินกิจกรรมที่จะช่วยกระตุ้นให้บุคลากรทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมให้มากยิ่งขึ้นและให้เกิดแนวคิดที่จะประหยัดพลังงานในพื้นที่ที่ตัวเองทำงานอยู่ การดำเนินกิจกรรมสำหรับทีมงานกลุ่มย่อยในการหามาตรการอนุรักษ์พลังงานจะเน้นที่ความสนุกสนานและสามารถใช้งานได้จริง การที่ความคิดสร้างสรรค์นั้นถูกคิดขึ้นจากบุคลากรภายใน จะทำให้บุคลากรเหล่านั้นเป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้องค์กรมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้พนักงานได้มีความรู้และเข้าใจถึงการใช้พลังงานในองค์กรอย่างรู้คุณค่า สอดแทรกความสนุกแบบมีสาระ สร้างจิตสำนึกอนุรักษ์พลังงานและสามารถมีส่วนร่วมในการหามาตรการประหยัดพลังงานจากพนักงานทุกระดับจากกิจกรรมกลุ่มย่อย ซึ่งส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กรอย่างยั่งยืน
ประโยชน์ที่ได้รับ
- เข้าใจความหมายและความเป็นมาในการอนุรักษ์พลังงานภายในองค์กร รวมทั้งผลกระทบและความสูญเสียในการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พลังงานเบื้องต้น
- มีเทคนิคการประหยัดค่าไฟที่จำเป็นสำหรับลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กร
- มีส่วนร่วมในการหามาตรการประหยัดพลังงาน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่และหน่วยงานของตน
- มีไอเดียมาตรการอนุรักษ์พลังงานเบื้องต้นจากกิจกรรมกลุ่มย่อย เพื่อต่อยอดการลดการใช้พลังงานในองค์กร
- มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงาน สร้างพื้นฐานการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนภายในองค์กร
เนื้อหาหลักสูตร
- สร้างจิตสำนึกอนุรักษ์พลังงานแบบมีส่วนร่วม
- ความสำคัญของพลังงาน
- สถานการณ์พลังงานใน อดีต ปัจจุบันและอนาคต
- เทคนิคอย่างง่ายสำหรับการประหยัดพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายขององค์กร
- ตัวอย่างและกรณีศึกษา
- กิจกรรมสำหรับทีมงานกลุ่มย่อยเพื่อหามาตรการอนุรักษ์พลังงาน
- การรวบรวมข้อมูล ตั้งเป้าหมาย ติดตามและประเมินผล


EFC-B-01 : การจัดทำรายงานการจัดการพลังงานตามกฎหมาย (ฟอร์มใหม่และ e-form) – 3 ชั่วโมง
รายงานการจัดการพลังงานนั้นถือว่าเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการทำระบบการจัดการพลังงานตามกฎหมาย มีความสำคัญอยู่ 2 ประการด้วยกัน ได้แก่
1.รายงานทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลการใช้พลังงาน มาตรการอนุรักษ์พลังงานและส่วนต่างๆที่สำคัญต่อการนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ในการลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานของสถานประกอบการ 2.รายงานจะต้องถูกตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงานจากผู้ตรวจสอบฯจากภายนอกและต้องส่งให้กับหน่วยงานภาครัฐ

ดังนั้นการกรอกข้อมูลลงในรายงานการจัดการพลังงานฟอร์มใหม่ให้ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ฟอร์มรายงานมีรายละเอียดในการกรอกค่อนข้างมากและซับซ้อน
EFC จึงได้ออกแบบหลักสูตรอธิบายการกรอกข้อมูลลงในรายงานฟอร์มใหม่แบบง่ายๆ ทีละขั้นตอน (Step by Step) เพื่อให้บุคลากรที่ทำรายงานนั้นได้กรอกข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วน และเข้าใจความหมายของข้อมูลที่ใส่ลงไป สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจากตัวรายงานนั้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการลดการใช้พลังงานต่อไปได้
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้คณะทำงานด้านการจัดการพลังงานได้มีความรู้และเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๐) และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทราบรายละเอียดในการสร้างและการดำเนินการการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอนตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินการจัดทำรายงานการจัดการพลังงานให้สอดคล้องกับที่กฎหมายระบุได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ซึ่งสามารถทำให้เกิดการพัฒนาทางด้านการจัดการพลังงานอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทราบวิธีการกรอกรายงานการจัดการพลังงานอย่างครบถ้วน
- ทราบกฎหมายการอนุรักษ์พลังงานที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการ
- ทราบหลักการระบบการจัดการพลังงานพลังงาน 8 ขั้นตอน
- ดำเนินการจัดทำรายงานการจัดการพลังงานให้สอดคล้องกับที่กฎหมายระบุได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
- สามารถนำผลลัพธ์จากรายงานฯไปพัฒนาระบบการจัดการพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กรได้
เนื้อหาหลักสูตร
- พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
- การจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน
- การกรอกข้อมูลลงในรายงานการจัดการพลังงานฟอร์มใหม่และ e-form อย่างถูกต้องครบถ้วน
- Workshop กรอกข้อมูลการทำรายงาน
EFC-B-02 : กฎหมาย พรบ การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน การสร้างและดำเนินการการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน + การจัดทำรายงานการจัดการพลังงานตามกฎหมาย (ฟอร์มใหม่และ e-form) – 6 ชั่วโมง
EFC เล็งเห็นการสร้างระบบบริหารและจัดการพลังงานในองค์กร เป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาระบบการจัดการพลังงานตาม พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๐) ซึ่งมุ่งเน้นในการสร้างระบบให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน
หลักสูตรนี้จะมุ่งเน้นให้คณะทำงานฯ รวมถึงผู้รับผิดชอบพลังงานได้มีส่วนร่วมและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายทางด้านการอนุรักษ์พลังงานและการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอนอย่างเข้าถึง พร้อมด้วยการชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ที่ทางสถานประกอบการจะได้รับจากการทำการระบบการจัดการพลังงาน


นอกจากนี้จากความยุ่งยากและซักซ้อนในการกรอกรายงานการจัดการพลังงาน EFC จึงได้ออกแบบหลักสูตรอธิบายการกรอกข้อมูลลงในรายงานฟอร์มใหม่และ e-form แบบง่ายๆ ทีละขั้นตอน (Step by Step) เพื่อให้บุคลากรที่ทำรายงานนั้นได้กรอกข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วน และเข้าใจความหมายของข้อมูลที่ใส่ลงไป สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจากตัวรายงานนั้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการลดการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่ายในองค์กรต่อไปได้
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้คณะทำงานด้านการจัดการพลังงานได้มีความรู้และเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๐) และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทราบรายละเอียดในการสร้างและการดำเนินการการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอนตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินการจัดทำรายงานการจัดการพลังงานให้สอดคล้องกับที่กฎหมายระบุได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ซึ่งสามารถทำให้เกิดการพัฒนาทางด้านการจัดการพลังงานอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทราบกฎหมายการอนุรักษ์พลังงานที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการ
- เข้าใจความหมายและวิธีดำเนินการการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน ทั้งขั้นตอนวางแผน ลงมือปฏิบัติ ตรวจสอบ ทบทวน วิเคราะห์และแก้ไข ตามหลักการ PDCA
- ดำเนินการสร้างและจัดทำระบบการจัดการพลังงานตามกฎหมาย
- ดำเนินการจัดทำรายงานการจัดการพลังงานให้สอดคล้องกับที่กฎหมายระบุได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
- ทราบวิธีการกรอกรายงานการจัดการพลังงานอย่างครบถ้วน
- สามารถนำผลลัพธ์จากรายงานฯไปพัฒนาระบบการจัดการพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กรได้
เนื้อหาหลักสูตร
- พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
- การสร้างและดำเนินการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน
- การแต่งตั้งผู้รับผิดชอบพลังงานตามกฎหมาย
- สิ่งที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอนุรักษ์พลังงานสำหรับสถานประกอบการ
- การกรอกข้อมูลลงในรายงานการจัดการพลังงานฟอร์มใหม่และ e-form อย่างถูกต้องครบถ้วน
- Workshop กรอกข้อมูลการทำรายงาน

EFC-B-03 : กฎหมาย พ.ร.บ. ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน การสร้างและดำเนินการการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน + การตรวจประเมินการจัดการพลังงานภายในองค์กร (Internal Audit) – 6 ชั่วโมง
EFC เล็งเห็นการสร้างระบบบริหารและจัดการพลังงานในองค์กร เป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาระบบการจัดการพลังงานตาม พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๐) ซึ่งมุ่งเน้นในการสร้างระบบให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน
หลักสูตรนี้จะมุ่งเน้นให้คณะทำงานฯ ผู้ตรวจประเมินภาย รวมถึงผู้รับผิดชอบพลังงานได้มีส่วนร่วมและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายทางด้านการอนุรักษ์พลังงานและการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอนอย่างเข้าถึง พร้อมด้วยการตรวจประเมินภายในองค์การอย่างมีประสิทธิภาพ

จากประสบการณ์ทางด้านการจัดการพลังงานและอนุรักษ์พลังงานมาอย่างยาวนาน EFC จึงได้ออกแบบการฝึกอบรมให้เข้าใจง่าย สำหรับผู้บริหาร คณะทำงานด้านการจัดการพลังงาน ผู้ตรวจประเมินภายในระดับหัวหน้างานและผู้รับผิดชอบทางด้านพลังงาน เพื่อสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการพลังงานในสถานประกอบการได้ทันที ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เน้นให้ความรู้เป็นลำดับและขั้นตอน ลดภาระหน้าที่ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงานลงได้อย่างมาก
การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญฯทางด้านพลังงานโดยตรง เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้องค์กรที่ต้องการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการจัดการพลังงาน ก้าวหน้าทางด้านพลังงานอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ประหยัดเวลาที่มีค่าไปได้อย่างมหาศาล
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้คณะทำงานด้านการจัดการพลังงานได้มีความรู้และเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๐) และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทราบรายละเอียดในการสร้างและการดำเนินการการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอนตามกฎหมายได้อย่างถูกต้องครบถ้วน นอกจากนี้ยังสร้างความรู้และเข้าใจในการตรวจประเมินภายในองค์กรแบบมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการพัฒนาทางด้านการจัดการพลังงานอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทราบกฎหมายการอนุรักษ์พลังงานที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการ
- เข้าใจความหมายและวิธีดำเนินการการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน ทั้งขั้นตอนวางแผน ลงมือปฏิบัติ ตรวจสอบ ทบทวน วิเคราะห์และแก้ไข ตามหลักการ PDCA
- ดำเนินการจัดทำระบบการจัดการพลังงานตามกฎหมายได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
- มีการตรวจประเมินภายในระบบการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ
- มีการพัฒนาระบบการจัดการพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กร
เนื้อหาหลักสูตร
- พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
- การสร้างและดำเนินการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน
- การแต่งตั้งผู้รับผิดชอบพลังงานตามกฎหมาย
- สิ่งที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอนุรักษ์พลังงานสำหรับสถานประกอบการ
- การตรวจประเมินระบบการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในองค์กร

EFC-B-04 : การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในองค์กร (CFO) + เทคนิคการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในภาคพลังงาน – 6 ชั่วโมง
ปัญหาโลกร้อนและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้วในปัจจุบัน ส่งผลกระทบทางด้านลบในระดับประเทศ ระดับองค์กร รวมถึงระดับบุคคลทั่วไปเป็นวงกว้าง จึงทำให้หลากหลายฝ่ายออกมาร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งหัวจักรสำคัญก็คือระดับองค์กร เพราะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกค่อนข้างมากจากการใช้พลังงาน การผลิต/บริการ ดังนั้น หากเราไม่ทราบว่าองค์กรของเรา ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากช่องทางไหนบ้าง ก็เป็นการยากที่เราจะลดการปล่อยก๊าซฯอย่างเป็นรูปธรรมได้
จากปัญหาข้างต้น EFC จึงได้ออกแบบการฝึกอบรมหลักสูตรการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นในองค์กร รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในภาคพลังงาน เพื่อให้พนักงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะทำงานประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ คณะทำงานที่วางแผนบริหารจัดการพลังงาน ได้รับความรู้และเข้าใจในการเก็บข้อมูลที่สำคัญเพื่อทำการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในองค์กรตามข้อกำหนดของ TGO อย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้รู้ได้ว่าองค์กรของตนปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากช่องทางไหน สามารถนำไปต่อยอดตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเหมาะสม ทั้งในภาคส่วนการใช้พลังงานและส่วนอื่นๆ นำไปสู่การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในองค์กรอย่างเป็นระบบและยั่งยืน


วัตถุประสงค์
- มีความรู้ความเข้าใจในหลักการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร สามารถเก็บข้อมูลและประเมินเป็นค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้
- มีความเข้าใจในการจัดทำเอกสารตามแบบฟอร์มต่างๆ ของ TGO
- มีความรู้เบื้องต้นในเทคนิคการลดก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในภาคพลังงาน
เนื้อหาหลักสูตร
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Climate Change และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- นิยาม Carbon Neutrality และ Net Zero Emission
- ข้อกำหนดในการคำนวณและรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
- วิธีการเก็บข้อมูลและการระบุแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร
- การรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร
- ฝึกปฏิบัติการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และการจัดทำ Verification Sheet
- การขออนุญาตใช้เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร กับ TGO
- เทคนิคการลดก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในภาคพลังงาน
- กรณีศึกษาและการนำไปใช้ประโยชน์
EFC-C-01 : เทคนิคประหยัดค่าไฟฟ้าในองค์กร + เทคนิคอนุรักษ์พลังงานในหม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้า – 3 ชั่วโมง
ไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญและเป็นต้นทุนในการดำเนินธุรกิจทุกประเภท ในกรณีที่มีการใช้พลังงานอย่างเกินความจำเป็นและเกิดการสูญเสียพลังงานในส่วนต่างๆ โดยเปล่าประโยชน์ ก็จะทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการใช้ไฟฟ้าและการบำรุงรักษาเครื่องจักรที่มีค่อนข้างมากในโรงงานและอาคารเช่นหม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างถูกวิธี จะทำให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการประหยัดค่าไฟฟ้าโดยรวมขององค์กร

EFC จึงได้ออกแบบการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับเทคนิคประหยัดค่าไฟฟ้าในองค์กร รวมถึงการอนุรักษ์พลังงานในหม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้าขึ้น เพื่อทำให้พนักงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเช่น พนักงานทั่วไป ฝ่ายวิศวกรรมและฝ่ายช่างซ่อมบำรุง ได้รับความรู้และเข้าใจในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและมีจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานแบบมีส่วนร่วม ซึ่งส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กรอย่างมหาศาล เมื่อพนักงานมีเทคนิคพื้นฐานทางด้านการอนุรักษ์พลังงานแล้ว ก็จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดการอนุรักษ์พลังงานในสถานประกอบการในขั้นที่สูงขึ้นต่อไป
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในอัตราค่าไฟฟ้าและเทคนิคการลดค่าไฟฟ้า ในรูปแบบที่หลากหลาย ส่งผลให้เกิดการประหยัดต้นทุนทางด้านพลังงานในองค์กร นอกจากนี้ยังให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้พื้นฐานและองค์ประกอบของหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) และมอเตอร์ไฟฟ้า (Electrical Motor) ตลอดจนถึงวิธีการใช้งาน บำรุงรักษาและเทคนิคการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานขององค์กรอย่างเหมาะสมและดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทราบปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าและเทคนิคการลดค่าไฟฟ้า
- ทราบองค์ประกอบพื้นฐานของหม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้า
- เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในหม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้าในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งมาตรการที่ไม่มีการ ลงทุนและมาตรการที่มีการลงทุน
- ทราบวิธีการใช้งานและบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กร
เนื้อหาหลักสูตร
- องค์ประกอบพื้นฐานของค่าไฟฟ้า
- อัตราค่าไฟฟ้า
- เทคนิคการลดค่าไฟฟ้าอย่างง่าย
- เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในหม้อแปลงไฟฟ้าและมอเตอร์ไฟฟ้า
- ตัวอย่างและกรณีศึกษา
EFC-C-02 : การปรับปรุงประสิทธิภาพและเทคนิคอนุรักษ์พลังงานในเครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) และระบบอากาศอัด – 3 ชั่วโมง
สถานประกอบการส่วนใหญ่มีการใช้อากาศอัดซึ่งมีค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานค่อนข้างสูงในกระบวนการผลิต ในกรณีที่พนักงานในองค์กรมีการใช้งาน การตั้งค่า มีเทคนิคการปรับปรุงประสิทธิภาพและการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานโดยรวมขององค์กรลดลงได้


EFC จึงได้ออกแบบการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับทางด้านการอนุรักษ์พลังงานในเครื่องอัดอากาศและระบบอัดอากาศขึ้น เพื่อทำให้พนักงานที่เกี่ยวข้องเช่น พนักงานฝ่ายผลิต ฝ่ายวิศวกรรมและฝ่ายช่างซ่อมบำรุง ได้รับความรู้และเข้าใจในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า รวมถึงเทคนิคประหยัดพลังงานในระบบอัดอากาศ ซึ่งส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในสถานประกอบการของท่านอย่างมหาศาล เมื่อพนักงานมีเทคนิคพื้นฐานทางด้านการอนุรักษ์พลังงานแล้ว ก็จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดการอนุรักษ์พลังงานในสถานประกอบการในขั้นที่สูงขึ้นต่อไป
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในอัตราค่าไฟฟ้าและเทคนิคการลดค่าไฟฟ้า ในรูปแบบที่หลากหลาย ส่งผลให้เกิดการประหยัดต้นทุนทางด้านพลังงานในองค์กร นอกจากนี้ยังให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้พื้นฐานและองค์ประกอบของเครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) และระบบอากาศอัด ตลอดจนถึงวิธีการใช้งาน บำรุงรักษาและเทคนิคการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานในระบบอากาศอัดขององค์กรอย่างเหมาะสมและดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทราบองค์ประกอบพื้นฐานของเครื่องอัดอากาศและระบบอากาศอัด
- ทราบวิธีการตรวจวัดและหาประสิทธิภาพของเครื่องอัดอากาศ
- ทราบวิธีการตรวจเช็คและหาเปอร์เซ็นต์ลมรั่ว เพื่อลดเปอร์เซ็นต์ลมรั่วโดยไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องอัดอากาศตัวใหม่เพิ่มเติม
- เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในเครื่องอัดอากาศและระบบอากาศอัด ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งมาตรการที่ไม่มีการ ลงทุนและมาตรการที่มีการลงทุน
- ทราบวิธีการใช้งานและบำรุงรักษาเครื่องอัดอากาศให้มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กร
เนื้อหาหลักสูตร
- องค์ประกอบพื้นฐานของเครื่องอัดอากาศและระบบอากาศอัด
- วิธีการตรวจวัดหาประสิทธิภาพของเครื่องอัดอากาศ
- วิธีประเมินเปอร์เซ็นต์ลมรั่วในโรงงาน
- เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในเครื่องอัดอากาศและระบบอากาศอัด
- วิธีเซ็ตแรงดันอากาศอัดให้เหมาะสม

EFC-C-03 : การปรับปรุงประสิทธิภาพและเทคนิคอนุรักษ์พลังงานในเครื่องทำความเย็น (Chiller) หอผึ่งลมเย็น (Cooling Tower) และระบบปรับอากาศ – 3 ชั่วโมง
สถานประกอบการส่วนใหญ่มีการใช้น้ำเย็นจากเครื่องทำความเย็นมาใช้ในระบบปรับอากาศหรือใช้กับระบบระบายความร้อนของเครื่องจักรในการผลิต ซึ่งเครื่องทำความเย็นนี้เอง เป็นเครื่องจักรที่ใช้พลังงานอย่างมหาศาล ในกรณีที่พนักงานในองค์กรมีการใช้งาน การตั้งค่าของเครื่อง เทคนิคการปรับปรุงประสิทธิภาพและการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานโดยรวมขององค์กรลดลงได้

EFC จึงได้ออกแบบการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับทางด้านการอนุรักษ์พลังงานในเครื่องทำความเย็น หอผึ่งลมเย็นและระบบปรับอากาศขึ้น เพื่อทำให้พนักงานที่เกี่ยวข้องเช่น พนักงานทั่วไป ฝ่ายวิศวกรรมและฝ่ายช่างซ่อมบำรุง ได้รับความรู้และเข้าใจในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า รวมถึงเทคนิคประหยัดพลังงานในระบบปรับอากาศ ซึ่งส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในสถานประกอบการ เมื่อพนักงานมีเทคนิคพื้นฐานทางด้านการอนุรักษ์พลังงานแล้ว ก็จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดการอนุรักษ์พลังงานในสถานประกอบการในขั้นที่สูงขึ้นต่อไป
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในอัตราค่าไฟฟ้าและเทคนิคการลดค่าไฟฟ้า ในรูปแบบที่หลากหลาย ส่งผลให้เกิดการประหยัดต้นทุนทางด้านพลังงานในองค์กร นอกจากนี้ยังให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้พื้นฐานและองค์ประกอบของเครื่องทำความเย็น (Chiller) หอผึ่งลมเย็น (Cooling Tower)และระบบปรับอากาศ ตลอดจนถึงวิธีการใช้งาน บำรุงรักษาและเทคนิคการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานในระบบทำความเย็นขององค์กรอย่างเหมาะสมและดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทราบองค์ประกอบพื้นฐานของเครื่องทำความเย็น หอผึ่งลมเย็นและระบบปรับอากาศ
- ทราบวิธีการตรวจวัดและหาประสิทธิภาพของเครื่องทำความเย็น (Chiller) และหอผึ่งลมเย็น (Cooling Tower) โดยใช้โปรแกรมคำนวณ
- ทราบถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องทำความเย็น หอผึ่งลมเย็นและระบบปรับอากาศ
- เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในเครื่องทำความเย็น หอผึ่งลมเย็นและระบบปรับอากาศ ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งมาตรการที่ไม่มีการลงทุนและมาตรการที่มีการลงทุน
- ทราบวิธีการใช้งานและบำรุงรักษาเครื่องทำความเย็นให้มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กร
เนื้อหาหลักสูตร
- องค์ประกอบพื้นฐานของเครื่องทำความเย็น หอผึ่งลมเย็นและระบบปรับอากาศ
- วิธีการตรวจวัดหาประสิทธิภาพของเครื่องทำความเย็น (Chiller) และหอผึ่งลมเย็น (Cooling Tower)
- ทราบถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องทำความเย็น หอผึ่งลมเย็นและระบบปรับอากาศ
- เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในเครื่องทำความเย็น หอผึ่งลมเย็นและระบบปรับอากาศ
- วิธีเซ็ตค่าและการใช้งานเครื่องทำความเย็นที่เหมาะสม

EFC-C-04 : การปรับปรุงประสิทธิภาพและเทคนิคอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ำ (Boiler) และระบบไอน้ำ – 3 ชั่วโมง
สำหรับสถานประกอบการที่มีการใช้เชื้อเพลิงความร้อนแล้ว หม้อไอน้ำถือเป็นเครื่องจักรที่มีนัยสำคัญในการใช้พลังงานเป็นลำดับต้นๆ การทราบวิธีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีแล้ว จะทำให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานเป็นอย่างมาก

EFC จึงได้ออกแบบการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับทางด้านการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ำและระบบไอน้ำขึ้น เพื่อทำให้พนักงานที่เกี่ยวข้องเช่น ฝ่ายวิศวกรรมและฝ่ายช่างซ่อมบำรุง ได้รับความรู้และเข้าใจในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า รวมถึงเทคนิคประหยัดพลังงานในระบบไอน้ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในสถานประกอบการของท่านอย่างมหาศาล เมื่อพนักงานมีเทคนิคพื้นฐานทางด้านการอนุรักษ์พลังงานแล้ว ก็จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดการอนุรักษ์พลังงานในสถานประกอบการในขั้นที่สูงขึ้นต่อไป
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในอัตราค่าไฟฟ้าและเทคนิคการลดค่าไฟฟ้า ในรูปแบบที่หลากหลาย ส่งผลให้เกิดการประหยัดต้นทุนทางด้านพลังงานในองค์กร นอกจากนี้ยังให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้พื้นฐานและองค์ประกอบของหม้อไอน้ำ (Boiler) และระบบไอน้ำ ตลอดจนถึงวิธีการใช้งาน บำรุงรักษาและเทคนิคการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานในระบบหม้อไอน้ำขององค์กรอย่างเหมาะสมและดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทราบองค์ประกอบพื้นฐานของหม้อไอน้ำและระบบไอน้ำ
- ทราบวิธีการตรวจวัดและหาประสิทธิภาพของหม้อไอน้ำ (Boiler)
- ทราบถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของหม้อไอน้ำและระบบไอน้ำ
- เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ำและระบบไอน้ำ ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งมาตรการที่ไม่มีการลงทุนและมาตรการที่มีการลงทุน
- ทราบวิธีการใช้งานและบำรุงรักษาหม้อไอน้ำให้มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในองค์กร
เนื้อหาหลักสูตร
- องค์ประกอบพื้นฐานของหม้อไอน้ำและระบบไอน้ำ
- วิธีการตรวจวัดหาประสิทธิภาพของหม้อไอน้ำ (Boiler)
- เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในหม้อไอน้ำและระบบไอน้ำ
- วิธีการปรับเซ็ตแรงดันและการใช้งานของหม้อไอน้ำให้เหมาะสม
EFC-D-01 : การติดตามสมรรถนะทางด้านพลังงาน (EnPI) โดยใช้เทคนิค CUSUM ให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้+ เทคนิคการเลือก Energy Target ให้เหมาะ – 6 ชั่วโมง
ปัญหาการตั้งเป้าหมายอนุรักษ์พลังงานเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกปี ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นความลำบากใจของคณะทำงานด้านการจัดการพลังงานว่า ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม หลายองค์กรตั้งเป้าสูงเกินไปจนทีมงานท้อ และยังมีอีกหลายองค์กรที่เป้าต่ำเกินไป สูญเสียโอกาสการประหยัดพลังงานต่ำกว่าที่ควรจะเป็น จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นการยากที่จะสามารถทำให้ผู้บริหารมีความพอใจในขณะเดียวกันทีมงานที่ทำเรื่องอนุรักษ์พลังงานก็สามารถทำตามเป้าได้ด้วย

จากปัญหาข้างต้น EFC จึงได้ออกแบบการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายประหยัดพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงการติดตามสมรรถนะทางด้านพลังงาน (EnPI) โดยใช้เทคนิค CUSUM ให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อให้พนักงานที่เกี่ยวข้องเช่น คณะทำงานที่วางแผนบริหารจัดการพลังงาน ได้รับความรู้และเข้าใจในการเลือกใช้ Energy Baseline อย่างถูกต้อง ซึ่งส่งผลให้เกิดการตั้งหมายการประหยัดได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังสามารถติดตามการพลังงานในสถานประกอบการได้อย่างทันท่วงที นำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
วัตถุประสงค์
เพื่อทำให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจเครื่องมือเชิงสถิติโดยใช้เทคนิคการสะสมของค่าความแตกต่าง (Cumulative Summation of Different: CUSUM) ซึ่งใช้ติดตามสมรรถนะทางด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนสามารถประเมินการใช้พลังงานในอนาคตของเครื่องจักรที่มีนัยสำคัญ (Significant Energy Use: SEU) เพื่อคาดการณ์การตั้งเป้าหมายในการประหยัดพลังงานที่เหมาะสมต่อองค์กร ซึ่งทำให้สามารถเลือกมาตรการอนุรักษ์พลังงานได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ทราบวิธีการติดตามสมรรถนำด้านพลังงานโดยเทคนิค CUSUM
- มีความรู้ความเข้าใจในการติดตาม ควบคุม สมรรถนะทางด้านพลังงานได้อย่างทันท่วงทีเพื่อบรรลุเป้าหมาย
- ทราบวิธีการหาสมการ Baseline โดยวิธี Regression Analysis และประเมินว่าสมการใช้ได้หรือไม่
- สามารถวิเคราะห์การใช้พลังงานขององค์กร จากกราฟ CUSUM ได้ เพื่อหาแนวทางในการจัดการพลังงานให้เหมาะสมกับองค์กร
- สามารถเลือกใช้ Energy Baseline ที่เหมาะสมในการตั้งเป้าหมายการประหยัดพลังงานขององค์กร
เนื้อหาหลักสูตร
- เครื่องมือเชิงสถิติที่ช่วยติดตามสมรรถนะด้านพลังงาน
- ความหมายของ Energy Baseline และวิธีการเลือกใช้
- เทคนิค CUSUM (Basic Tools)
- วิธีการหาสมการ Baseline โดยวิธี Regression Analysis
- วิเคราะห์การใช้พลังงานขององค์กร จากกราฟ CUSUM
- การตั้งเป้าหมาย Energy Target ให้เหมาะสม
- การติดตามการใช้พลังงานให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
อบรมอนุรักษ์พลังงาน
EFC เล็งเห็นถึงความสําคัญกับพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๕๐) จึงได้ออกแบบหลักสูตรการ ฝึกอบรมอนุรักษ์พลังงาน และการจัดการพลังงานขึ้น เพื่อทําให้พนักงานได้รับความรู้และเข้าใจถึงการใช้พลังงานในสถานประกอบการอย่างรู้คุณค่าสามารถมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานจากพนักงานทุกระดับ ซึ่งส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงานในสถานประกอบการ ของท่านอย่างยั่งยืน เมื่อพนักงานมีจิตสํานึกและเทคนิคการอนุรักษ์พลังงาน ก็จะเป็นพื้นฐานสําคัญในการต่อยอดการ อนุรักษ์พลังงานในสถานประกอบการในขั้นที่สูงขึ้นต่อไป
หลักสูตรเน้นเชิงบูรณาการ หยิบยกตัวอย่างและสถานการณ์ด้านพลังงานที่เกิดขึ้นจริงในโลกปัจจุบัน อาทิเช่น พลังงานสะอาด เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ทางด้านการเก็บกักพลังงาน (Energy Storage) หรือการพูดถึงการจัดการพลังงานอัจฉริยะเข้ามาร่วมอธิบายให้ทุกท่านเห็นภาพการใช้พลังงานในปัจจุบันและอนาคตได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

วิทยากร EFC เป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้ทางด้านอนุรักษ์พลังงานและการจัดการพลังงานมาอย่างยาวนาน ร่วมงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนระดับประเทศและระดับนานาชาติ พร้อมทั้งได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่ปรึกษาอิสระ สาขาพลังงาน ศูนย์ที่ปรึกษา กระทรวงการคลัง และได้ใบประกอบวิชาชีพภาคีวิศวกรเครื่องกลพิเศษงานตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงาน ตามกฎหมาย จึงมั่นใจได้ว่าสถานประกอบการของท่านจะได้รับความรู้และประสบการณ์จากการ ฝึกอบรมอนุรักษ์พลังงาน และการจัดการพลังงาน ซึ่งสอดคล้องและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทของท่านอย่างแท้จริง