Category Archives: คลังความรู้และเทคนิคประหยัด

เทคนิคอนุรักษ์พลังงานในระบบแสงสว่าง

เราขาดแสงสว่างไม่ได้ ต้องเปิดไฟทุกที่ที่เราทำงาน

การประหยัดพลังงานโดยปิดไฟในห้องมืดๆ ไม่ช่วยอะไร ถึงแม้ประหยัดค่าไฟได้ก็จริง แต่ทำให้ชีวิตเราลำบากขึ้น

วันนี้เราจะมาดูเทคนิคง่ายๆ 5 ข้อที่จะทำให้เราใช้พลังงานในระบบแสงสว่างอย่างคุ้มค่าและทำให้ประหยัดค่าไฟกัน

1. ติดตั้งหลังคาโปร่งแสง ใช้สำหรับในโรงงานหรือโกดังเก็บสินค้า สามารถช่วยประหยัดค่าไฟในช่วงเวลากลางวันได้เยอะเลย

2. ใช้แสงธรรมชาติในการทำงาน ตย ในห้องทำงานที่ติดกระจกอยู่แล้วมีแสงเข้ามาแต่เราปิดม่านไว้อยู่ ถ้าไม่ได้มีแสงส่องเข้ามาโดยตรง ก็เลือกเปิดม่านออกแล้ว ปิดไฟ แล้วใช้แสงธรรมชาติแทน

3. ติดตั้ง sensor ตรวจจับการเคลื่อนไหว เป็นลักษณะหรี่แสงลงครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อมีวัตถุผ่านมาใกล้ก็ให้เปิดแสงสว่างเต็มโดยอัตโนมัติ ควรติดตั้งบริเวณทางเดิน ระเบียง ลานจอดรถในอาคาร เป็นต้น

4. ตรวจเช็คค่าความส่องสว่างแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสม หากพบว่าพื้นที่ไหนมีค่าความส่องสว่างที่มากเกินไปก็พิจารณาการปลอดหลอดไฟออกบางส่วน

5. เปลี่ยนเป็นหลอด LED ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะภาคอาคารให้ควรรีบพิจารณาเปลี่ยนทันที เพราะจะทำให้การใช้พลังงานในระบบแสงสว่างลดลงเกิน 50 % เลยทีเดียว (สำหรับการเปลี่ยน LED ควรเลือก Driver และ LED Chip ให้คุณภาพดี จะทำให้หลอดไฟที่ใช้งานไม่เสียบ่อย ใช้งานได้นานๆ)

ในระบบแสงสว่าง ส่วนใหญ่จะแนะนำเป็นการลงทุนนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วทุกมาตรการล้วนน่าลงทุน เนื่องจะคืนทุน 1-2 ปี ซึ่งถือว่าค่อนข้างไว เมื่อเทียบกับมาตรการประหยัดพลังงานในระบบอื่น

ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ

พบกันโพสต์หน้า สวัสดีครับ

เทคนิคอนุรักษ์พลังงานในหอผึ่งลมเย็น

อาคารและโรงงานหลายแห่งติดตั้งหอผึ่งลมเย็น (Cooling Tower) เพื่อช่วยระบายความร้อนในระบบปรับอากาศหรือเครื่องจักร

ถึงแม้ตัวมันเองจะกินพลังงานไม่มากแต่ก็ส่งผลเป็นอย่างมากต่อเครื่องจักรหรือ Chiller ที่ต่ออยู่ในระบบร่วมกับมัน

หากเราบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีและใช้เทคนิคประหยัดพลังงานใน Cooling Tower ด้วยแล้ว ก็จะส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานในระบบโดยรวมได้ค่อนข้างดีเลย

ดังนั้น วันนี้เราจะมาดูเทคนิคอนุรักษ์พลังงานในหอผึ่งลมเย็น ทั้งหมด 10 ข้อกัน

1. เปิดปิด การใช้งาน CT ให้เหมาะสมกับโหลดใช้งาน อาจมีการติดตั้ง Step CT fan Motor หรือระบบเปิดปิด CT อัตโนมัติก็ได้

2. เปลี่ยน Filling (แผงรังผึ้ง) ในกรณีที่ชำรุด หรือล้างทำความสะอาด Filling ในกรณีที่สกปรก การทำอย่างนี้จะช่วยให้น้ำใน CT มีการระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น

3. ความสะอาด ปรับตั้งองศาใบพัด CT ให้ได้กินลมอย่างเหมาะสมและปรับตั้งใบพัดให้สมดุล

4. ในกรณีที่ใบพัด CT เก่ามีน้ำหนักมาก แนะนำให้เปลี่ยนใบพัด ที่มีน้ำหนักเบากว่า จะทำให้สามารถประหยัดพลังงานมอเตอร์ใบพัดได้ประมาณ 10-15%

5. ทำความสะอาดหัวกระจายน้ำ (Nozzle) ให้ไม่อุดตัน หรือทำการเปลี่ยนในกรณีที่ชำรุด

6. ควรติดตั้ง CT ให้มีลมผ่านระบายความร้อนได้อย่างสะดวก ไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้นการผ่านของลม

7. ไม่ควรให้ลมร้อนกลับมาเข้า CT อีก ตย เช่น CT ติดตั้งใกล้กับปล่องควันของหม้อไอน้ำ เป็นต้น

8. เช็คอัตราการไหลของน้ำเข้า CT ให้เหมาะสม การที่มีอัตราการของน้ำผ่าน CT มากไป จะทำให้น้ำหล่อเย็น ระบายความร้อนได้ไม่สุด จึงส่งผลกระทบต่อการระบายความร้อนให้ระบบปรับอากาศหรือเครื่องจักรต่างๆ ได้

9. ในกรณีที่มอเตอร์ของใบพัด CT ชำรุด ให้ทำการเปลี่ยน มอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า

10. วางแผนการใช้งาน เปิดปิด รวมถึงการบำรุงรักษาหอผึ่งลมเย็นอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดพลังงานใน CT และเครื่องจักรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้

จะเห็นว่าบางข้อ เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเลย ขอให้มีความเข้าใจว่าโหลดเราต้องการเท่าไหร่และการใช้งาน CT ของเราเป็นอย่างไร จากนั้นก็สามารถนำไอเดียต่างๆ เหล่านี้ไปปรับใช้กับองค์กรของทุกท่านได้เลยครับ

แล้วพบกันใหม่ โพสต์หน้า สวัสดีครับ

เทคนิคอนุรักษ์พลังงานในระบบ Chiller

หลายท่านที่มีหน้าที่ดูแลระบบ Chiller อยู่ วันนี้ห้ามพลาด

ผมจะมาบอกเทคนิค 10 ข้อในการประหยัดพลังงานใน Chiller กัน

Chiller เป็นเครื่องผลิตนำ้เย็นป้อนให้กับระบบปรับอากาศ หรือ ระบายความร้อนสำหรับเครื่องจักร

ภาคอาคารส่วนใหญ่จะใช้ในธุรกิจประเภท สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล ซึ่ง Chiller จะกินสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าถึงประมาณ 30-50% เลยทีเดียว

ดังนั้นความรู้และเทคนิคการประหยัดพลังงานใน Chiller สำหรับวิศวกรและช่างที่อยู่ในภาคอาคารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

ส่วนภาคโรงงานมีใช้ Chiller ไม่ค่อยมากเท่าไหร่ แล้วแต่ประเภทอุตสาหกรรม แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ Chiller ในการผลิตนำ้เย็นสำหรับระบายความร้อนของเครื่องจักรการผลิตสินค้าเป็นหลัก

แต่โรงงานบางประเภทอุตสาหกรรมก็มีการใช้ Chiller สำหรับระบบปรับอากาศเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

เทคนิคประหยัดพลังงานในระบบ Chiller 10 ข้อ ทบทวนและเลือกใช้ข้อต่างๆ ด้านล่างได้เลยครับ

1. ปรับตั้งอุณหภูมิน้ำเย็นในเครื่อง Chiller ให้เพิ่มขึ้น เช่นเพิ่มจาก 7.0 C เป็น 7.2 C เป็นต้น

2. ใช้อุณหภูมิน้ำของ Condenser ที่ตำ่ที่สุดเท่าที่ Chiller จะสามารถทำงานได้ (การลดอุณหภูมิน้ำของ Condenser ลง 5.5 C สามารถทำให้ลดการใช้พลังงานใน Compressor ของชิลเลอร์ได้ประมาณ 20-25%)

3. เพิ่มอุณหภูมิ evaporator (การเพิ่มอุณหภูมิของ Condenser ขึ้น 5.5 C สามารถทำให้ลดการใช้พลังงานใน Compressor ของชิลเลอร์ได้ประมาณ 20-25%)

4. ทำความสะอาด heat exchanger เมื่อมีตะกรัน (1 มม ตะกรันที่ท่อ Condenser สามารถเพิ่มการใช้พลังงานประมาณ 40%) ดังนั้นควรมีการวางแผนแยงทิ้วอยู่เป็นประจำ

5. ปรับอัตราการไหลของน้ำหล่อเย็นและน้ำเย็นให้สอดคล้องกับโหลดที่ต้องการ

6. ถ้าเป็นได้ให้พิจารณาเลือกใช้ Water Cooled Chiller มากกว่า Air Cooled Chiller

7. ติดต้ังระบบควบคุมชิลเลอร์อัตโนมัติสำหรับสถานประกอบการที่มี Chiller หลายเครื่อง

8. วิเคราะห์ part load ตามแต่ละช่วงของวัน รวมถึงตามแต่ฤดูกาล เพื่อวางแผนการจัดการการเดินชิลเลอร์ให้สอดคล้องกับโหลดที่ต้องการ

9. ถ้ามีชิลเลอร์เก่ามากๆ แนะนำให้วัดประสิทธิภาพการทำความเย็น ถ้าผลออกมาแย่กว่าพิกัดมากๆ ควรพิจารณาเปลี่ยนเป็น chiller ที่มีประสิทธิภาพสูงแทน

10. วางแผนการเปิด ปิด ใช้งานชิลเลอร์ รวมถึงแผนการบำรุงรักษาตลอดทั้งปี และดำเนินการตามแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายและสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ของชิลเลอร์ด้วย

สุดท้ายนี้ หวังว่าจะเป็นการทบทวนและเป็นไอเดียสำหรับให้ทุกท่าน ให้ได้น้ำเทคนิคต่างๆ ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานประกอบการของท่านต่อไป

แล้วพบกันใหม่ โพสต์หน้า สวัสดีครับ

ทำไมค่าไฟถึงขึ้น

หลายท่านคงทราบดีแล้วว่าค่า ft จะปรับขึ้นอีกในเดือน พค 65 ทำให้ค่าไฟเพิ่มประมาณ 6% แต่เหตุทำไมค่าไฟถึงขึ้น วันนี้เราจะมาค้นหาคำตอบกัน

ก่อนอื่นต้องกล่าวถึงค่า ft ก่อนว่าคือค่าไฟฟ้าผันแปร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าไฟฟ้าที่เราต้องจ่าย

ft นี้จะมีกำหนดการปรับทุกๆ 4 เดือนด้วยกัน ซึ่งจะปรับจาก 3 ปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ 1.ค่าเชื้อเพลิง 2.ค่าซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชนและซื้อจากต่างประเทศ 3.การใช้จ่ายตามนโยบายภาครัฐ เช่นการรับซื้อไฟที่ผลิตได้จากพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น

ในรอบการปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปี 65 นี้ โดยหลักแล้ว มีผลมาจากปัจจัย ค่าเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติและนำ้มันมีราคาสูงขึ้น บวกกับปัจจัยจากภาวะสงครามรัสเซียและยูเครนทำในราคาเชื้อเพลิงพลังงานต่างๆ วิกฤตขึ้นไปอีก

ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ค่า ft ก็เลยต้องสูงขึ้นตาม

การที่ ft ขึ้นมีผลกระทบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย โรงงานรวมถึงภาคอาคารต่างๆด้วย โดยรวมค่าไฟตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นกว่า 10%

ดังนี้วิธีการรับมือค่าไฟแพง คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า จะเป็นการช่วยทั้งเราและช่วยทั้งโลก

ห้องปั๊มลมร้อนมาก ทำอย่างไร?

หากคุณเดินเข้าไปในห้องติดตั้งปั๊มลม แล้วรู้สึกเดินเข้าไปในเตาอบ แสดงว่าคุณต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ

หลายโรงงานที่ผมไปตรวจสอบ ผมว่าห้องติดตั้งปั๊มลม พอเดินเข้าไปรู้สึกร้อนวูบ บางโรงงานถึงขั้นที่ว่าเอาอาหารเข้ามาอุ่นยังได้เลย

ความจริงแล้วไม่ใช่ผลดีนะครับที่ห้องปั๊มลมมีอุณหภูมิสูงขนาดนี้ เพราะจะมีผลทำให้ปั๊มลมกินพลังงานสูงขึ้นและจะทำให้ปั๊มลมเสียเร็วอีกด้วยเพราะเนื่องจากความร้อนสะสม เครื่องตัดบ่อยและทำให้ซีลยางต่างๆเสื่อมสภาพเร็วตามไปด้วย

ทางที่ดี ควรออกแบบให้ห้องที่ติดตั้งปั๊มลม มีการระบายความร้อนสะสมได้ดี ก็จะเป็นผลดีต่อการใช้พลังงานที่ลดลงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

การติดตั้งพัดลมดูดอากาศและติดตั้งท่อส่งลมร้อนออกไปภายนอกห้อง (ตามรูป) จะทำให้ปริมาณความร้อนสะสมในห้องลดลง

การลดอุณหภูมิอากาศในห้องปั๊มลมลงได้ 3 องศาเซียลเซสจะลดการใช้พลังงานในปั๊มลมได้ประมาณ 1%

เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่บางทีเราก็มองข้ามไป

วันนี้ ลองสำรวจดูห้องปั๊มลมของท่านดูนะครับ

เทคนิคอนุรักษ์พลังงานในระบบอัดอากาศ

ต่อเนื่องจากโพสต์ที่แล้ว

เรายังอยู่ในเรื่องของลมอัดอยู่ แต่คราวนี้จะมาดูเรื่องเทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในระบบอัดอากาศกัน

1.ติดตั้งระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับเปิดใช้งานปั๊มลมหลายตัวพร้อมกัน

2.ศึกษา part load และรอบการผลิตและใช้งานลมอัดของเรา หลังจากนั้นวางแผนการเปิดใช้งานปั๊มลมให้เหมาะสมกับโหลดที่ใช้งานในแต่ละช่วงเวลา

3.ลดแรงดันลมอัดที่ผลิตจากเครื่องอัดอากาศลงให้เหมาะสมกับโหลดที่ต้องการ (การลดแรงดันลมอัดลง 1 bar สามารถลดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 9% นอกจากนี้จะทำให้ลดลมที่รั่วลงได้อีกประมาณ 10%) โดยส่วนตัวผมว่ามาตรการนี้น่าทำเป็นอย่างยิ่ง ทำแล้วได้ประโยชน์สองต่อ โดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเลย

4.ซ่อมแซมลมรั่วอย่างสม่ำเสมอ (ถ้าลมอัดแรงดัน 7 bar ขนาดรูรั่ว 1 มม จะสูญเสียกำลังไฟฟ้าเทียบเท่า 0.5 kW) มาตรการนี้ขาดไม่ได้ จำเป็นต้องใส่ไว้ในแผนซ่อมบำรุงทุกปีเลย

5.ใช้ระบบเดรนน้ำอัตโนมัติ ลดการสูญเสียลมอัดที่ปล่อยออกไปอย่างไม่จำเป็น

6.ตรวจเช็คสายพานในเครื่องอัดอากาศอย่างสม่ำเสมอ ถ้าชำรุดให้รีบเปลี่ยนเป็นสายพาน v-belt ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า

7.บริเวณที่ติตดั้งเครื่องอัดอากาศควรระบายความร้อนได้ดี เพื่อที่จะสามารถรับอากาศเย็นเข้ามาผ่านกระบวนการอัดอากาศที่ใช้พลังงานน้อยกว่าได้ (การลดอุณหภูมิอากาศเข้าเครื่องได้ 3 องศาเซลเซียสจะประหยัดพลังงานเครื่องอัดอากาศลงประมาณ 1%)

8.ไม่ควรใช้ลมอัดไปเป่าตัว เพราะจะสิ้นเปลืองพลังงานเป็นอย่างมาก

9.เช็ควาล์วเดรนน้ำอย่างสม่ำเสมอ หากชำรุดให้รีบเปลี่ยน

10.ลดขนาดรูของปืนลมเป่าชิ้นงานลง (โดยไม่กระทบต่อการผลิต) จะทำให้ช่วยประหยัดลมอัดและประหยัดพลังงานได้

เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับ 10 เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในระบบอัดอากาศที่ได้ยกมาให้ทุกท่านดูในวันนี้

หลายมาตรการไม่ได้ใช้เงินลงทุนเลยก็ประหยัดไปได้เยอะ

ลองนำไปปรับใช้กับองค์กรของท่านดูนะครับ

แล้วพบกันใหม่โพสต์หน้า สวัสดีครับ

เทคนิคการอนุรักษ์พลังงานในปั๊มลม

โรงงานเกือบทุกแห่งมีปั๊มลม ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่กินพลังงานเยอะเป็นลำดับต้นๆ

วันนี้เราจะมาดูเทคนิคอนุรักษ์พลังงานที่เกี่ยวข้องกับปั๊มลมกัน

1.พิจารณาติดตั้ง VSD สำหรับปั๊มลมที่มีโหลดเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ

2.ตรวจสอบอุณหภูมิของนำ้มันในตัวปั๊มลมไม่ให้มีค่าสูงหรือต่ำจะเกินไป เพราะจะทำให้มีผลต่อประสิทธิภาพการผลิตลมของเครื่อง

3.เปลี่ยนฟิลเตอร์นำ้มันตามระยะเวลาที่กำหนด

4.ทำความสะอาดฟิลเตอร์กรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ

5.ตรวจสอบ intercooler ของระบบให้ใช้งานได้ปกติอย่างสม่ำเสมอ

6.สำหรับปั๊มลมขนาดใหญ่ อาจจะนำความร้อนทิ้งจากน้ำหล่อเย็นที่มีอุณหภูมิสูง ไปใช้กับ absortion chiller หรืออาจนำไป preheat สำหรับกระบวนการผลิตหรือใช้ในฝั่ง utility ก็ได้

7.สร้างโปรแกรมการซ่อมบำรุงและมีการตรวจเช็คตามรอบอย่างสม่ำเสมอ มีการตรวจวัดประสิทธิภาพปั๊มลมเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้ทราบว่าประสิทธิภาพปั๊มลมของเราดีหรือว่าแย่ เมื่อเทียบกับพิกัดตัวมันเอง หรือเทียบกับค่ามาตรฐาน

เทคนิคด้านบนทั้งหมดเป็นหลักการเบื้องต้นที่จะทำให้ปั๊มลมของเราใช้พลังงานได้คุ้มค่าเต็มประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่จะเน้นการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆที่สามารถทำได้

ข่าวดีและข่าวร้ายเกี่ยวกับค่าไฟปี 65

วันนี้จะมีข่าวดีและข่าวร้ายเกี่ยวกับค่าไฟจะมาบอกครับ

เริ่มจากข่าวร้ายก่อนเลยแล้วกัน

ในยุคที่ทุกอย่างแพง ค่าไฟก็แพงขึ้นเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ กกพ มีการประกาศปรับค่า ft ขึ้นประมาณ 3 -5 % และมีผลในเดือนมกราคม 65 เป็นต้นไป

หมายความว่าค่าไฟของเราต้องจ่ายแพงขึ้น 3-5 % นี่คือข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในยุคที่โควิดยังระบาดอยู่ มองในภาคบ้านพักอาศัยก็อาจจะจ่ายเพิ่มแค่หลักสิบ หรือหลักร้อย

แต่ถ้าเป็นภาคอาคารและโรงงาน ก็อาจต้องจ่ายเพิ่มเป็นหลักหมื่น หรือหลักแสน ทำให้ต้นทุนการดำเนินการเพิ่มสูงขึ้น อาจจะต้องพิจารณาปรับราคาสินค้าหรือบริการได้

ผลกระทบก็กลับมาที่ประชาชนทั่วไปเพราะจะทำให้ข้าวของต่างๆปรับราคาสูงขึ้นไปอีก

ข่าวร้ายเรื่องค่าไฟแพงนี้มาช่วงต้นปี ไม่ค่อยดีเลยนะครับ

แต่เดี๋ยวก่อน…..ในเรื่องร้ายๆก็มีเรื่องดีอยู่

เพราะข่าวดีที่จะมาบอกในวันนี้คือ เราสามารถลดต้นทุนค่าไฟของเราลงได้ จากการทำมาตรการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าในสถานประกอบการของเราเอง

ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะเริ่มลงมือทำเรื่อง มาตรการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง บางเรื่องไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุนเลยด้วยซ้ำ แต่เราได้ผลประหยัดกลับมาฟรีๆ เพียงแค่เรามีความรู้หา

การใช้พลังงานที่สูญเสียและเกินความจำเป็นในสถานประกอบการของเรา
EFC ได้นำเสนอเทคการอนุรักษ์พลังงานในระบบและเครื่องจักรต่างๆ ไว้ที่ในโพสต์ของ Facebook หรือในเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว

ท่านใดสนใจ เข้าไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมและเลือกมาตรการที่เหมาะสมกับสถานประกอบการของตนเองได้เลยครับ

การทำมาตรการอนุรักษ์พลังงานนอกจากประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบจาก Climate Change ได้ด้วยนะครับ ช่วยทั้งเรา….และช่วยทั้งโลก

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปรับค่าไฟขึ้นครั้งนี้ จะทำให้ค่าไฟของทุกท่านไม่สูงขึ้นกว่าเดิมจากมาตรการการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่ากันนะครับ

วันนี้ขอตัวลาไปก่อน โปรดติดตามโพสต์ต่อไป ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะครับ สวัสดีครับ

ทำอย่างไรไม่โดน Minor การตรวจสอบรับรองการจัดการพลังงาน

ครั้งที่แล้ว เราพูดถึงเรื่องทำอย่างไรไม่ให้โดน Major จากผู้ตรวจสอบฯการจัดการพลังงานไปแล้ว

ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงทำอย่างไร ให้ผ่านการตรวจสอบแบบคลีนคลีน ไม่มี Minor และผ่านฉลุยกันไปเลย

ก่อนเข้าเรื่อง เรามาพูดเรื่อง Minor กันก่อน Minor หมายถึงการที่ระบบและรายงานไม่สอดคล้องตามกฎหมายอย่างไม่ร้ายแรง ตีความตามกฎหมายได้ว่า ผ่านการตรวจสอบรับรองแต่ว่าต้องแก้ไขปรับปรุงในปีถัดไป

ซึ่งเวลาผู้ตรวจสอบฯ ตรวจเจอสิ่งที่ตกหล่นไป หรือไม่ครบในบางประเด็น ก็สามารถให้ Minor ได้

ประเด็นที่พบเห็นได้มากและจะโดน Minor กันค่อนข้างบ่อยก็คือ

1. การคำนวณมาตรการอนุรักษ์พลังงาน ไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม เช่น มีการใช้สูตรคำนวณไม่เหมาะสม การนำค่าตัวแปรต่างๆ มาใช้ไม่มีที่มาที่ไป ไม่สามารถอ้างอิงได้ เป็นต้น ซึ่งประเด็นนี้สามารถแก้ไขได้โดย การรีเช็คสูตรและตัวแปรต่างๆให้ถูกต้อง อาจมีหนังสือคู่มือการคำนวณสูตรมาอ้างอิงให้ผู้ตรวจสอบฯดูด้วยก็จะช่วยกันข้อผิดพลาดได้มาก

2.การประเมินหรือตรวจวัดค่าประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่มีนัยสำคัญ ไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม เช่น ค่าหน่วยที่มาใช้กับค่าประสิทธิภาพไม่ใช่ค่า input/output หรือ output/input เป็นต้น ส่วนใหญ่มักจะบอกหน่วย input ของเครื่องจักรตัวนั้นๆ มาอย่างเดียว ซึ่งไม่ถูกต้อง

3.ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้พนักงานรับทราบอย่างทั่วถึง ประเด็นนี้ต้องมีการเตรียมพร้อมให้ดี เพราะในวันตรวจสอบฯจริง ผู้ตรวจจะสุ่มสัมภาษณ์พนักงานว่า ทราบข้อมูลประกาศเกี่ยวกับด้านอนุรักษ์พลังงาน ที่คณะทำงานได้ประชาสัมพันธ์ไปหรือไม่ – หากตอบไม่ได้ก็ถือว่ารับทราบอย่างไม่ทั่วถึง

ประเด็นหลักที่พบเจอจะมีประมาณเท่านี้ สำหรับ Minor

สุดท้ายนี้ ลองกลับไปดูระบบและรายงานของเราว่ามี Minor หรือไม่ ถ้ามีให้รีบปรับปรุง แก้ไข ก่อนที่ผู้ตรวจสอบฯจากภายนอกจะมาตรวจนะครับ

แล้วพบกันใหม่ในครั้งถัดไป สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ

เตรียมความพร้อม ตรวจสอบรับรองการจัดการพลังงาน

สวัสดีปี 2565 ทุกท่านนะครับ

พบกันอีกครั้งนะครับ หลังจากพักเบรคกลับมาแล้ว เข้าสู่ช่วงรวบรวมข้อมูลทำรายงานส่งกรม เราพักเรื่องเทคนิคอนุรักษ์พลังงานแล้วมาเตรียมความพร้อมก่อนผู้ตรวจสอบรับรองจากภายนอกจะมาตรวจดีกว่า

วันนี้จะนำเสนอเรื่อง ทำอย่างไรให้ระบบและรายงานของเราผ่านการตรวจสอบรับรองฯจากผู้ตรวจสอบฯจากภายนอกกันนะครับ

ก่อนอื่นเลยต้องกล่าวว่า ถ้าเราต้องการผ่านการตรวจสอบรับรองฯ เราจะต้องไม่ได้รับ ​Major จากผู้ตรวจสอบฯ เพราะ Major นั้นหมายถึง รายงานหรือระบบของเรามีความไม่สอดคล้องกับกฎหมายอย่างร้ายแรง ทางกฎหมายตีความว่า ไม่ผ่านการตรวจสอบฯ

ซึ่งหลายคนตั้งใจทำรายงานและระบบมา แต่มาตกมาตายเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ มันน่าเจ็บใจนะครับ

ดังนั้นเราควรมารีเช็คอีกทีหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเวลาตรวจสอบจริงดีกว่า

ท่องไว้เลยครับว่า เราจะต้องอุดไม่ให้เกิด Major ไว้ก่อน ซึ่ง Major ทั้ง 8 ขั้นตอน อยู่ด้านล่างครับ


ขั้นตอนที่ 1 : คณะทำงานด้านการจัดการพลังงาน
– ไม่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ เป็นเอกสาร

– ไม่มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ โครงสร้าง และความรับผิดชอบของคณะทำงานฯ

– ไม่มีการเผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ด้วยวิธีการใดๆ เลย

ขั้นตอนที่ 2 : การประเมินสถานภาพการจัดการพลังงานเบื้องต้น
– ไม่มีการประเมินสถานภาพการจัดการพลังงานเบื้องต้นทั้งในหน่วยงานย่อยตามโครงสร้างและภาพรวมของโรงงานควบคุม

ขั้นตอนที่ 3 : นโยบายอนุรักษ์พลังงาน
– ไม่มีการกำหนดนโยบายอนุรักษ์พลังงานเป็นเอกสาร

– ไม่มีการกำหนดเนื้อหาสาระสำคัญของนโยบายฯ เลย

– ไม่มีการเผยแพร่นโยบายฯ ด้วยวิธีการใด ๆ เลย

ขั้นตอนที่ 4 : ประเมินศักยภาพการอนุรักษ์พลังงาน
– ไม่มีการประเมินศักยภาพการอนุรักษ์พลังงานทุกข้อกำหนดตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

ขั้นตอนที่ 5 :กำหนดเป้าหมายและแผนอนุรักษ์พลังงานและแผนการฝึกอบรมและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
– ไม่มีการกำหนดเป้าหมายและแผนอนุรักษ์พลังงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

– ไม่มีการกำหนดแผนการฝึกอบรมและกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

– ไม่มีการเผยแพร่แผนการฝึกอบรมและกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้บุคลากรของโรงงานควบคุมรับทราบอย่างทั่วถึง

ขั้นตอนที่ 6 : การดำเนินการตามแผน การตรวจสอบ และวิเคราะห์การปฏิบัติตามเป้าหมาย
– ไม่มีการติดตามผลการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงาน และการดำเนินการตรวจสอบและวิเคราะห์การปฏิบัติตามเป้าหมายและแผนอนุรักษ์พลังงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

– ไม่มีการติดตามผลการดำเนินงานของแผนการจัดฝึกอบรมและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

ขั้นตอนที่ 7 : การตรวจติดตามและประเมินการจัดการพลังงาน
– ไม่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะผู้ตรวจประเมินการจัดการพลังงานภายในองค์กรเป็นเอกสาร- ไม่มีการตรวจประเมินการจัดการพลังงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

– ไม่มีการเผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งคณะผู้ตรวจประเมินฯ ให้บุคลากรในโรงงานควบคุมทราบ

ขั้นตอนที่ 8 : การทบทวน วิเคราะห์ และแก้ไขข้อบกพร่องของการจัดการพลังงาน
– ไม่มีการทบทวน วิเคราะห์และแก้ไขข้อบกพร่องของการจัดการพลังงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

– ไม่มีการนำผลของการตรวจติดตามและประเมินการจัดการพลังงานมานำเสนอคณะทำงานการจัดการพลังงาน เพื่อทบทวน วิเคราะห์และแก้ไขข้อบกพร่องของการจัดการพลังงานในรอบปี

– ไม่มีผลการทบทวน วิเคราะห์และแก้ไขข้อบกพร่องของการจัดการพลังงาน
อาจจะยาวนิดหนึ่ง แต่ให้เราทำเป็นเช็คลิสต์ไว้เลย หลังจากนั้นก็ไล่ตรวจดูว่าเราไม่มี Major แน่ๆ ในทุกขั้นตอน แค่นี้ก็โล่งใจไปได้เยอะแล้วครับ

หลังจากนั้นก็ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมให้ไม่มี Minor อีกทีหนึ่งก็ถือว่า เราผ่านการตรวจสอบรับรองแบบคลีนคลีนเลย

ส่วนในรูปจะกล่าวถึงว่า บุคคลซึ่งมีหน้าที่เหมาะสมที่จะไปรีเช็ค Major ให้เรา หรือถ้าท่านไหนชำนาญก็ให้รีเช็คคนเดียวทั้งระบบก็ได้ครับ

สุดท้ายนี้ การเตรียมความพร้อมในการตรวจสอบใช้เวลาไม่นาน ถือเป็นเรื่องที่เราควรจะจัดหาเวลาในการทำ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ
พบกันใหม่ในโพสต์ต่อไป สวัสดีครับ