จากข้อมูลสถิติที่ผ่านมาพบว่า หลายองค์กรตั้งเป้าประหยัดพลังงานไว้ แล้วพบว่าไม่สำเร็จตามเป้า เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ฉุดรั้งไม่ให้ไปถึง

วันนี้เราจะมีมาดูกันว่าอุปสรรค 3 หัวข้อใหญ่นั้นมีอะไรบ้าง
1.มาตรการอนุรักษ์พลังงานประหยัดได้เยอะจริง แต่เวลาทำจริงผู้บริหารชะลดโครงการไปก่อน – หลายองค์กรประสบปัญหาในลักษณะนี้ โดยเฉพาะองค์กรที่เพิ่งเริ่มทำการจัดการพลังงานใหม่ ปัญหานี้ถ้ามองให้ลึกลงไปอาจจะเป็นเพราะผู้บริหารเห็นว่า คณะทำงานเพิ่งเริ่มวางระบบและทำมาตรการ เลยอยากจะขอดูก่อนว่าจะสำฤทธิ์ผลไหมในปีแรกๆ ถ้าเป็นไปได้ดี เห็นผลชัดเจนผู้บริหารจะอนุมัติโครงการในปีถัดไป
ดังนั้น คณะทำงานฯควรวางแผนไว้ในปีแรกๆที่ทำ ให้เริ่มจากมาตรการประหยัดพลังงานที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนไว้ก่อน เมื่อเริ่มทำมาตรการ ก็ต้องมีการตรวจวัดผลที่จับต้องได้เป็นตัวเลขไว้ด้วย เพื่อเป็นผลลัพท์ แสดงให้ผู้บริหารเห็นว่าทำสำเร็จ เมื่อผู้บริหารเห็นว่ามีผลงานก็จะอนุมัติเงินลงทุนในโครงการถัดไป
2.คณะทำงานฯไม่เข้มแข็ง แต่ละท่านไม่ทราบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจน ทำให้การทำมาตรการประหยัดพลังงาน ทำได้อย่างไม่เต็มที่.ดังนั้นควรจะต้องกำหนดความรับผิดชอบของคณะทำงานฯเป็นรายบุคคล ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องอนุรักษ์พลังงานในองค์กร ก็จะทำให้งานที่ทำจะมีระบบและสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
3.ไม่มีการตรวจติดตาม วัดผลมาตรการประหยัดพลังงานที่ทำอย่างต่อเนื่อง – พบเห็นได้มากในหลายๆองค์กร ตอนเริ่มมาตรการมีความตั้งใจจริงในการทำ แต่เมื่อผ่านประมาณ 2-3 เดือนก็ไม่มีการกลับมาตรวจเช็คอีกว่ามาตรการที่ทำได้ผลอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ทำให้สิ้นสุดโครงการไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
ดังนั้นการลงมือปฎิบัติมาตรการ ควรมีการตรวจติดตามวัดผลอย่างต่อเนื่อง โดยอาจใช้การจดบันทึกข้อมูลโดยพนักงาน หรืออาจจะติดตั้งตัว Energy Monitoring ไว้บันทึกค่าการใช้พลังงานก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราทราบสถานะ การใช้พลังงานในปัจจุบัน หากเกิดปัญหาขึ้นกับมาตรการที่ทำ ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที เพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
จะเห็นว่าปัญหาทั้งหมดจะเกี่ยวข้องการวางระบบการจัดการพลังงานที่ไม่ครอบคลุม ดังนั้นความรู้จากการวางระบบเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้ ขอให้องค์กรของทุกท่านประสบความสำเร็จทางด้านพลังงานอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้นะครับ